ซีพี ออลล์ และ 12 บริษัทเอกชน ร่วมกับ สพฐ. ประชุมการจัดทำ Best Practice กลุ่มโรงเรียนร่วมพัฒนาฯ

843

เมื่อวันที่ 9-10 กรกฎาคม 2565 คุณตรีเทพ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อม และ CONNEXT ED บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนบริษัทฯ นำคณะเข้าร่วมการประชุมปฏิบัติการจัดทำ Best Practice ของโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School Project) หัวข้อ “โรงเรียนร่วมพัฒนา : กลุยทธ์การจัดการศึกษาร่วม ภาครัฐ – เอกชน” โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมการบริหารจัดการสถานศึกษาภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ บริษัท มูลนิธิ และองค์กรต่าง ๆ ให้เข้ามาร่วมสนับสนุนทรัพยากรและเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารสถานศึกษา โดยมีเป้าหมายคือ ให้โรงเรียนในโครงการได้รับการพัฒนาด้านคุณภาพการบริหารจัดการ ด้านคุณภาพผู้เรียน ด้านการจัดการเรียนการสอน และด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยในปี 2565

 

 

สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาได้รับการประสานจากภาคเอกชนเกี่ยวกับการจัดทำแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) เพื่อให้มีฐานข้อมูลต้นแบบความสำเร็จของผู้สนับสนุนโรงเรียนในโครงการซึ่งต้องเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม สะท้อนการพัฒนาและความก้าวหน้าของโรงเรียน จึงกำหนดการประชุมขึ้น เพื่อรวบรวมแนวปฏบัติที่ดี (Best Practice) ของผู้ที่ให้การสนับสนุนโรงเรียนร่วมพัฒนา รุ่นที่ 1 จำนวน 50 โรงเรียน โดยผู้สนับสนุน 12 หน่วยงาน เพื่อนำมาเป็นต้นแบบให้กับโรงเรียนอื่นได้นำไปเป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้ต่อไป

 

อนึ่ง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) 1 ใน 12 องค์กรผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ และเข้าร่วมโครงการตั้งแต่รุ่นที่ 1 มีโรงเรียนภายในการดูแล 2 โรงเรียน คือโรงเรียนอนุบาลดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย และโรงเรียนวัดนาคู (จันทศึกษาคาร) อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา มีบทบาทในการพัฒนาโรงเรียนด้วยการเข้าร่วมเป็นกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ขับเคลื่อนการพัฒนาโรงเรียนโดยนำแนวคิดการวิชาการเชิงธุรกิจ โดยใช้ Business Model Canvas เข้าไปใช้ในการวางแผนงานพัฒนาโรงเรียนที่มุ่งเน้นสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้เกิดขึ้นแก่ผู้มีส่วนได้เสีย (Stake Holder) โดยเฉพาะกลุ่มผู้เรียน ผู้ปกครอง ผ่านการพัฒนาบริการที่เน้นเสริมสร้างทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 ควบคู่ไปกับความรู้ทางวิชาการตามหลักสูตรแกนกลาง จนสามารถสร้างประชากรคุณภาพในระดับพื้นฐานได้ จนส่งผลให้โรงเรียนในความดูแลมีคุณภาพ ศักยภาพที่ดีขึ้น จนได้รับรางวัลจากหน่วยงาน สถาบัน องค์กรต่างๆ เป็นแบบอย่างให้กับโรงเรียนอื่นๆในโครงการ และเพื่อเป็นการขยายปณิธาน “ร่วมสร้างสรรค์ และแบ่งปันโอกาส” ของซีพีออลล์ออกไปอีก ในรุ่นที่ 3 ปีการศึกษา 2565 ซีพี ออลล์รับโรงเรียนมาดูแลภายใต้โครงการเพิ่มอีก 7 โรงเรียน รวมทั้งสิ้น 9 โรงเรียนด้วยกัน